การเลือกสถาบันแปลภาษาควรพิจารณาจากอะไร

คำแนะนำในการเลือก สถาบันแปลภาษา ให้คุ้มค่ากับการลงทุน

การเลือกสถาบันแปลภาษา

เมื่อในโลกปัจจุบันภาษาที่2 หรือ 3 เริ่มเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตมากขึ้น ในหลายๆธุรกิจเป็นธุรกิจสู่ระดับสากล การมีเนื้อหาในเวปไซต์หรือสื่อโซเชียลมีเดียที่เป็นภาษาสากลอย่างภาษาอังกฤษ ภาษาจีนหรือภาษาอื่นๆย่อมเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าคนไทยหรือต่างชาติ ล้วนต้องการทำเอกสารเพื่อจุดประสงค์ต่างๆ เช่น การท่องเที่ยว การย้ายถิ่นฐาน ทำงาน แต่งงาน ทำธุรกรรม ติดต่อซื้อขาย ติดต่อธุรกิจ ติดต่อหน่วยงานราชการ หรือจุดประสงค์อื่นๆอีกมากมาย ซึ่งภาษา เป็นหนึ่งในสมบัติทางวัฒนธรรมและเครื่องมือสำคัญที่มนุษย์ใช้เป็นสื่อกลางในการสื่อสาร ส่งผลให้สังคมเรามีหลากหลายวัฒนธรรมและภาษามากยิ่งขึ้น จึงทำให้ในปัจจุบันมีสถาบันแปลภาษาเกิดขึ้นมากมาย เพื่อช่วยรองรับความต้องการในด้านการแปลเอกสารราชการ หรือแปลเอกสารด้านกฎหมาย หรือเอกสารอื่นๆที่จำเป็น

ดังนั้นการเลือกสถาบันแปลภาษาควรพิจารณาจากอะไรบ้างดังนี้

  1. ความเชี่ยวชาญทางด้านการแปลเอกสาร ในปัจจุบันมีบริษัทแปลภาษาเกิดขึ้นมากมาย เพื่อช่วยรับรองในการแปลเอกสารสำคัญต่างๆ เพื่อใช้สำหรับการเรียนหรือการทำงานที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่เราต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกได้แก่ประสบการณ์ในการแปล รวมถึงผลการสอบวัดระดับด้านภาษาต่างๆของผู้แปล เพื่อช่วยให้งานแปลมีคุณภาพ แปลได้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ ช่วยส่งผลให้ภาพลักษณ์ของผู้ใช้บริการแปลเอกสารดูมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น

  2. ประสบการณ์ในการแปลเอกสาร นอกจากความเชี่ยวชาญทางด้านการแปลเอกสารแล้ว ประสบการณ์ในการรับแปลเอกสารหลากหลายชิ้นหลากหลายงานและหลากหลายประเภทของศูนย์แปลภาษา ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้บริการสามารถไว้วางใจได้ เอกสารที่ผ่านการแปลภาษาจากผู้เชี่ยวชาญจะถูกแปลออกมาได้อย่างสละสลวย เข้าใจง่ายและมีระดับภาษาที่เหมาะสมกับประเภทของเอกสาร เสมือนได้อ่านต้นฉบับจากภาษานั้นจริงๆ

  3. ควรกำหนดสิ่งที่ต้องการไว้ล่วงหน้า องค์กรธุรกิจ ทำไมต้องจ้างนักแปลภาษา อาทิ เนื้อหาของเว็บไซต์บริษัท สัญญาทางธุรกิจ เอกสารคู่มือต่างๆ เป็นภาษาสากล เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าใจในตัวสินค้าหรือการนำเสนอของบริษัท เป็นต้น การกำหนดระยะการแปลไว้เหมาะสม พร้อมทั้งเราควรดูประวัติของสถาบันแปลภาษา หรือประวัตินักแปลภาษา

  4. การขอคำแนะนำจากผู้ที่เคยใช้บริการสถาบันแปลภาษา ในบ้างครั้งการแนะนำจากคนที่เคยใช้บริการก็เป็นปัจจัยที่น่าเชื่อถือในการตัดสินใจเลือกใช้บริการสถาบันแปลภาษา อาจจะเป็นคำพูดปากต่อปากหรือคำแนะนำจากผู้ใช้บริการที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงานหรือฝ่ายอื่นๆภายในองค์กร เพราะว่าเขาเหล่านั้นเคยใช้บริการมาแล้วก่อนหน้าและจะทราบถึงคุณภาพของงานที่ออกมาว่าเป็นอย่างไร เป็นต้น

  5. เวลาในการทำงาน คุณควรตั้งระยะเวลาในการทำงาน และร่วมงานกับสถาบันผู้ให้บริการแปลที่ยึดตามกำหนดเวลาที่เข้มงวดและยอมเสียค่าปรับในกรณีที่เกิดความล่าช้า สถาบันที่ยอมรับบทลงโทษกรณีล่าช้าจะเข้าใจความสำคัญของเวลา

  6. ที่ตั้ง ในปัจจุบันเราอยู่ในยุคออนไลน์มากขึ้น ทำให้เราสามารถร่วมงานกับสถาบันแปลภาษาได้ทุกมุมโลก สิ่งนี้ทำให้หลายบริษัททำงานร่วมกับสถาบันแปลภาษาที่อยู่ในประเทศที่มีค่าครองชีพต่ำกว่า เพื่อประหยัดต้นทุนในการจ้างงาน

  7. การรักษาความลับ สิ่งสำคัญในการจ้างสถาบันแปลภาษาคือการที่สถาบันจะรักษาความเป็นส่วนตัวให้กับข้อมูล โดยทางบริษัทควรจะแจ้งให้ลูกค้ารับทราบว่าเอกสารของลูกค้าถูกจัดเก็บไว้ที่ใด และสถาบันแปลภาษาได้มีการลงนามในสัญญาการรักษาความลับของลูกค้ากับเครือข่ายนักแปลหรือไม่ บริษัทควรจะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบในการเก็บรักษาเอกสารการแปลทั้งก่อนและหลังแปลให้ลูกค้าอีกด้วย

จากบทความข้างต้น การที่เราจะเลือกสถาบันแปลภาษาให้ถูกใจ เราควรเลือกพิจารณาถึงหลักการข้างต้น เพราะฉะนั้น หากใครที่กำลังมองหาสถาบันแปลภาษาดีๆที่น่าเชื่อถือสักแห่งหนึ่ง เอ็ดดูบร๊านซ์ มีบริการรับแปลเอกสาร อีกทั้งยังมีบริการด้านกฎหมายต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการหรือนักธุรกิจต่างๆ อาทิ มีการจดบริการการค้าหรือเครื่องหมายการค้า บริการยื่นขอรับความคุ้มครองสำหรับการประดิษฐ์ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิบัตรต่างๆ อนุสิทธิบัตรต่างๆเป็นต้น เอ็ดดูบร๊านซ์ (Edubranch) ยินดีให้บริการแก่ลูกค้าทุกคน เพราะเรามีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาและสามารถให้คำแนะนำท่านได้ทุกขั้นตอนเกี่ยวกับการแปลเอกสาร การรับรองเอกสาร ในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม หากท่านสนใจลองติดต่อเข้ามาพูดคุยปรึกษารายละเอียดเบื้องต้นและขอรับบริการได้เลยค่ะ


สถาบันแปลภาษา  บริษัท เอ็ดดูบร๊านช์ จำกัด ติดต่อ

Visitors: 367,293